บรรดาสมณะผู้ทรงเกียรติ เหล่าคุณพ่อที่น่าเคารพ และบรรดาพี่น้องชายหญิงที่รักยิ่ง
“พระคริสตเจ้าทรงบังเกิดแล้ว ให้เราถวายพระสิริรุ่งโรจน์แด่พระองค์ พระคริสตเจ้าเสด็จมาจากฟ้าสวรรค์ โปรดออกมาพบพระองค์เถิด” พร้อมด้วยคำเหล่านี้ พระศาสนจักรศักดิ์สิทธิ์นำเราทุกคนสู่ความยินดีของวันสมโภชการบังเกิดพระเยซูคริสตเจ้า องค์พระผู้เป็นเจ้าและพระผู้ไถ่ของเรา ซึ่งพ่อขอกล่าวแสดงความยินดีต่อลูก ๆ ทุกคน
ในช่วงเทศกาลนี้ ความคิดของเรามุ่งเน้นไปที่การระลึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเวลามากกว่าสองพันปีมาแล้ว การเสด็จมายังโลกของพระเมสสิยาห์ที่รอคอยมานาน ในความเข้าใจของผู้คนที่มีชีวิตอยู่ในช่วงเวลานั้นถือว่าเป็นสิ่งที่มีความสำคัญยิ่ง ตามความน่าจะเป็นแล้วนั้น กษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ควรบังเกิดในสถานที่ที่หรูหรา ถูกล้อมรอบไปด้วยข้าราชบริพาร และบรรยากาศต่างเป็นบรรยากาศสำหรับงานฉลอง แต่อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างเกิดขึ้นตรงกันข้ามกับตรรกะของมนุษย์
เหมือนกับว่าพระผู้ทรงสร้างจะตรัสกับประชากรของพระองค์ว่า “ความคิดของเราไม่ใช่ความคิดของท่าน ทางของท่านก็ไม่ใช่ทางของเรา” (อิสยาห์ 55:8) แทนที่จะเป็นพระราชวัง กลับเป็นถ้ำ แทนที่จะเป็นข้าราชบริพาร กลับเป็นฝูงสัตว์ แทนที่จะเป็นบรรยากาศแห่งการเฉลิมฉลอง กลับเป็นเพียงแค่ที่พักเล็ก ๆ พระเจ้าทรงเปิดเผยพระองค์เองบนโลกนี้ว่า พระองค์ปราศจากเครื่องป้องกันใด ๆ ทรงเป็นพระกุมารที่อ่อนโยน และนับตั้งแต่การบังเกิดของพระองค์ พระองค์ก็ทรงพระทรมานกับความขาดแคลนและความยากลำบาก พักพิงอยู่ในที่สำหรับสัตว์ เรื่องราวทั้งหมดนี้เป็นพยานถึงความหมายที่แท้จริงของพระภารกิจบนโลกของพระคริสตเจ้าองค์พระผู้ไถ่ ผู้ทรง “มิได้มาเพื่อให้ผู้อื่นรับใช้ แต่มาเพื่อรับใช้ผู้อื่น และมอบชีวิตของตนเป็นสินไถ่เพื่อมนุษย์ทั้งหลาย” (มัทธิว 20:28)
เมื่อองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับเราทุกคน สิ่งที่เกิดขึ้นมักจะแตกต่างจากสิ่งที่เราคาดหมายไว้ เหตุผลของพระเจ้านั้นแตกต่างจากเหตุผลของมนุษย์โดยสิ้นเชิง ในช่วงสมโภชพระคริสตสมภพที่ผ่านมา เราได้ไตร่ตรองหรือไม่ว่าในอีกไม่นานเราจะต้องอดทนกับความยากลำบากแบบไหน? ในปีที่ผ่านมา เราปราศจากความยินดีในการที่จะพบปะกับอย่างที่เคยมี ต้องเผชิญหน้ากับข้อจำกัดมากมาย ความยากลำบาก ความโศกเศร้า และโรคร้าย แต่ถึงกระนั้น ตอนนี้เราก็ยังไม่เริ่มที่จะรู้สึกและเข้าใจความหมายของคำของนักบุญเปาโลที่กล่าวว่า “ไม่ว่าความตายหรือชีวิต…ไม่ว่าปัจจุบันหรืออนาคต ไม่ว่าความสูง ความลึก หรือสรรพสิ่งจะพรากเราได้จากความรักของพระเจ้า ซึ่งปรากฏในพระคริสตเยซู องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา” (โรม 8:38-39) อีกหรือ?
พระผู้สร้างทรงย้ำเตือนเราผ่านทางสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในปีก่อนว่า ไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหน ไม่ว่าสถานการณ์จะยากเพียงใด เราก็ยังเป็นของพระคริสตเจ้าอยู่เสมอ และดังนั้น “เส้นผมบนศีรษะของท่านจะไม่เสียไปแม้แต่เส้นเดียว” ตามคำของพระวรสาร สิ่งที่จำเป็นสำหรับเรามีแค่อย่าสิ้นหวัง จงเชื่อในพระผู้สร้าง และ “ด้วยการยืนหยัดมั่นคงท่านจะรักษาชีวิตของท่านไว้ได้” (ลูกา 21:18-19) แท้จริงแล้ว องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงนำเราไปสู่ความรอดด้วยวิธีทีเกินจะหยั่งถึง
บรรดาปิตาจารย์เห็นด้วยตรงกันว่า ความสูญเสียและความโศกเศร้าเพื่อเห็นแก่พระคริสตเจ้านั้นทำให้จิตวิญญาณของคนมั่นคงขึ้น และเป็นดัง “ทักษะที่ไม่สามารถทำลายได้สำหรับความอดทนและความกล้าหาญ” (จากการอธิบายพระคัมภีร์ของนักบุญยอห์น คริสซอสตอมในข้อพระคัมภีร์ที่ว่า “ยิ่งไปกว่านั้น เรายังภูมิใจในความทุกข์ เพราะรู้ว่าความทุกข์ก่อให้เกิดความพากเพียร”) ยิ่งไปกว่านั้น ผลของสิ่งนี้ คือประสบการณ์ ซึ่งทำให้เกิดความหวัง ตามที่นักบุญเปาโลผู้ปรีชาฉลาดได้เขียนไว้ว่า “ความหวังนี้ไม่ทำให้เราผิดหวัง เพราะพระจิตเจ้าซึ่งพระเจ้าประทานให้เรา ทรงหลั่งความรักของพระเจ้าลงในดวงใจของเรา” (โรม 5:3-5)
การบังเกิดของพระคริสตเจ้า เป็นวันสมโภชแห่งความหวังที่สดใส ขอให้เราสุขุม ถ่อมตน และหวังอย่างแน่วแน่ว่าพระอานุภาพของพระเจ้าจะเอาชนะความไม่ชอบธรรมและความบาปต่าง ๆ และมองไปยังพระกุมารที่บรรทมอยู่บนรางหญ้าอย่างสงบ เราป่าวประกาศพร้อมกับนักบุญออกัสตินว่า “ความหวังทั้งหมดของข้าพเจ้าอยู่ในพระกรุณาอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ และในพระกรุณาอันยิ่งใหญ่ของพระองค์แต่เพียงเท่านั้น โปรดประทานตามสิ่งที่พระองค์ทรงบัญชา และทรงบัญชาตามพระประสงค์ของพระองค์” (จากหนังสือ “คำสารภาพ” เล่มที่ 10 บทที่ 29) ข้าพเจ้าทั้งหลายเป็นของพระองค์ พระเจ้าข้าโปรดทรงทำกับเราตามพระเมตตาของพระองค์
ขอถวายพระสิริรุ่งโรจน์แด่พระเยซูคริสตเจ้า พระผู้ประสูติในวันนี้ ขอให้เราทุกคนกล้าหาญและมั่นคง โดยอาศัยการทรงช่วยเหลืออันเปี่ยมไปด้วยพระหรรษทานขององค์พระผู้เป็นเจ้า ขอพระองค์โปรดประทานการทรงช่วยเหลือนี้ให้แก่เราอย่างบริบูรณ์ในศีลศักดิ์สิทธิ์ของพระศาสนจักร ให้เราทุกคนชื่นชมยินดี เพราะพระเจ้าสถิตกับเรา ขอให้พวกเราเชื่อและวางใจในพระบุตรแต่พระองค์เดียวผู้ทรงบังเกิดจากพระบิดา ผู้ทรงเห็นแก่เราทั้งหลายจึงได้ทรงมาบังเกิดเป็นมนุษย์เพราะด้วยความรักมั่นคงของพระองค์ ดังนั้น “เมื่อได้เป็นผู้ชอบธรรมด้วยความเชื่อแล้ว เราย่อมมีสันติกับพระเจ้า เดชะพระเยซูคริสต์ องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา” (โรม 5:1)
พ่อขอแสดงความยินดีต่อลูก ๆ ที่รักยิ่งทุกคนอย่างสุดใจ เนื่องในวันพระคริสตสมภพอันรุ่งโรจน์นี้ “ขอพระเจ้าผู้ประทานความหวังโปรดให้ท่านทั้งหลายเปี่ยมด้วยความยินดีและสันติทุกประการในการที่ท่านเชื่อเช่นนั้น เดชะพระฤทธานุภาพของพระจิตเจ้า” (โรม 15:13) เทอญ อาเมน
เมโตรโปลิตันแห่งสิงคโปร์และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
เอ็กซาร์คของสมเด็จพระอัครบิดรแห่งเอเชียอาคเนย์
สมโภชพระคริสตสมภพ
คริสตศักราช 2020/2021
ประเทศสิงคโปร์